จะเล่นเกมใหม่มาแรงอย่าง League of Legends Wild Rift อย่างไรให้ไม่แลค ไม่ปิง
สิ้นสุดการรอคอย เพราะในที่สุด บริษัทผู้พัฒนาเกมอย่าง Riot Games ก็ได้เปิดตัวเกมน้องใหม่อย่าง League of Legends Wild Rift (LoL : Wild Rift) อย่างเป็นทางการโดยออกมา Open Beta เมื่อวันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้จัดการของ Riot Games อย่างคุณ Jennifer Poulson ผู้จัดการฝ่ายการเติบโต ได้ออกมาตอบคำถามกับสื่อเรื่องการเปิดตัวของเกม LoL : Wild Rift เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
League of Legends Wild Rift (LoL : Wild Rift) เป็นเกมสไตล์ MOBA ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสาวกเกม League of Legends (LoL) จากแต่เดิมที่เล่นในระบบ PC ได้อย่างเดียว ปัจจุบันก็ได้ออกเกม League of Legends Wild Rift (LoL : Wild Rift) เวอร์ชั่นมือถือ (Mobile) ออกมาเพื่อให้สาวก LoL ได้เล่นกันอีกด้วย สามารถดาวน์โหลด (Download) กันได้ทั้งใน Google Play Store และ App Store ซึ่งมาพร้อมกับแชมเปี้ยนใหม่ สกินใหม่ และอื่นๆอีกมากมาย
โดยในรอบ Open Beta ของ League of Legends Wild Rift (LoL : Wild Rift) นี้ ได้เปิดให้บริการในประเทศอินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไทย และฟิลิปปินส์ แน่นอนว่าสาวก LoL จากประเทศอื่น อาจจะต้องมุด VPN กันสักหน่อย ถือเป็นข่าวดีสำหรับสาวก LoL ชาวไทยที่ได้เล่นโดยไม่ต้องมุด
แต่เมื่อพูดถึงการเล่นเกมบนมือถือ ปัญหาที่ชาวเกมเมอร์หรือผู้เล่นที่ต้องเจอบ่อย ๆ ขณะเล่นเกมคงหนีไม่พ้นอาการปิง(Ping) ที่อาจจะแกว่งไปแกว่งมาไปถึงขั้นสูง และอาการแลค(Lag) เพราะฉะนั้นการเชื่อมต่อ VPN ก็ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดอาการเหล่านี้ให้น้อยลงได้ บลูแนะนำให้ใช้ VPN ของ BullVPN ที่สามารถปรับอินเทอร์เน็ตให้ออกนอกดีขึ้น ทำให้ลดอาการกระตุกของอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังลดอาการแลค แก้ปัญหาเน็ตปิงทั้งเน็ตบ้านและปิงเน็ตมือถือ ที่จะส่งผลต่อเกมได้อีกด้วย
นอกจากปัญหาอินเทอร์เน็ตที่ผู้เล่นบนมือถือจะต้องเจอแล้ว คงหนีไม่พ้นการ AFK ของผู้เล่นที่จะมีมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งปัญหานี้ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะอินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียรจนทำให้เกมนั้นหลุดไป ซึ่งถือเป็นเรื่องสุดวิสัย และด้วยความยาก, เงื่อนไขในการเล่น จะเป็นตัวช่วยคัดกรองผู้เล่นคุณภาพได้ในระดับหนึ่ง ยกตัวอย่าง การซื้อไอเทม ต้องวาร์ปกลับมาซื้อที่บ่อเกิดเท่านั้น ฯลฯ