หลายคนอาจพบปัญหาพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเต็มในอุปกรณ์ iOS ซึ่งเกิดจากไฟล์ขยะและแคชที่สะสมจากการใช้แอปต่างๆ เช่น ไฟล์แนบในอีเมล การติดตั้งและใช้งานแอปพลิเคชัน การท่องเว็บ หรือการใช้แอปโซเชียลมีเดีย เมื่อไม่ใช้แอปเหล่านี้ ไฟล์ขยะจะกินพื้นที่จัดเก็บและทำให้อุปกรณ์ทำงานช้าลง แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป พี่วัวมีวิธีลบไฟล์ขยะและแคชในระบบ iOS มาบอก แต่ก่อนอื่นมาทำความใจก่อนว่าไฟล์ขยะและแคชแตกต่างกันอย่างไร
ไฟล์ขยะและแคชมีความแตกต่างกันอย่างไร?📁
1. ไฟล์ขยะ (Junk Files)
- ลักษณะ: ไฟล์ขยะเป็นไฟล์ที่ไม่ได้ใช้แล้วและไม่จำเป็น เช่น ไฟล์ดาวน์โหลดเก่าๆ หรือไฟล์ที่สร้างขึ้นโดยแอปพลิเคชันแต่ไม่ได้ถูกใช้งานอีกต่อไป
- ผลกระทบ: ไฟล์ขยะมักจะเพิ่มปริมาณพื้นที่ที่ใช้เก็บข้อมูลบนอุปกรณ์ แต่ไม่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงาน
2. แคช (Cache Files)
- ลักษณะ: แคชคือข้อมูลชั่วคราวที่แอปพลิเคชันหรือเว็บเบราว์เซอร์เก็บไว้เพื่อเร่งความเร็วในการเข้าถึงข้อมูลหรือแสดงผลที่เร็วขึ้น เช่น ภาพหรือข้อมูลจากเว็บไซต์ที่เคยเข้าชม
- ผลกระทบ: แคชช่วยให้การทำงานของแอปหรือเว็บเร็วขึ้น แต่หากสะสมมากเกินไป อาจทำให้พื้นที่จัดเก็บเต็มและอาจทำให้อุปกรณ์ทำงานช้าลง
พี่วัวขอสรุปให้แบบสั้นๆ ไฟล์ขยะคือไฟล์ที่ไม่ได้ใช้แล้วและไม่จำเป็น ขณะที่แคชเป็นข้อมูลชั่วคราวที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำงาน แต่หากมีมากเกินไปอาจส่งผลต่อพื้นที่จัดเก็บข้อมูลนั่นเอง ต่อมาก็มาดูวิธีการลบไฟล์ขยะและแคชในระบบ iOS กันเลย
วิธีการลบไฟล์ขยะและแคชในระบบ iOS
1. เปิดแอป “การตั้งค่า” (Settings) บนอุปกรณ์ iOS
2. เลือก “ทั่วไป” (General)
3.เลือก “พื้นที่จัดเก็บข้อมูลของ iPhone” (iPad Storage หรือ iPhone Storage)
4.เลือกแอปพลิเคชันที่ต้องการลบไฟล์ขยะ โดยปัจจุบันเราจะให้ความสนใจกับแอปที่มีขนาดใหญ่และใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเยอะที่สุด
5. เมื่อเลือกแอปพลิเคชันแล้ว จะเห็นตัวเลือก “เอาแอปที่ไม่ได้ใช้ออก” (Offload App) หรือ “ลบแอป” (Delete App) ขึ้นมา
- การเลือก “เอาแอปที่ไม่ได้ใช้ออก” (Offload App) จะล้างข้อมูลแคชของแอปพลิเคชันเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าแอปและข้อมูลยังคงอยู่ในอุปกรณ์แต่ถูกพักการใช้งานไว้จนกว่าเราจะติดตั้งใหม่และดึงข้อมูลกลับมา ไฟล์ขยะและข้อมูลที่ไม่จำเป็นจะถูกลบออก ทำให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้น
- การเลือก “ลบแอป” (Delete App) จะทำให้แอปพลิเคชันและข้อมูลทั้งหมดภายในแอปถูกลบออกจากอุปกรณ์ รวมถึงการล้างแคชและไฟล์ขยะด้วย ทำให้ประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อย่างเต็มที่
เลือกตัวเลือกที่เหมาะสมตามความต้องการของเราได้เลย จากนั้นรอให้กระบวนการลบเสร็จสิ้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับขนาดของแอปและประสิทธิภาพของอุปกรณ์ของเรา เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เราสามารถเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลในอุปกรณ์ของเรา ให้มีพื้นที่เพียงพอได้แล้ว สุดท้ายนี้พี่วัวขอฝาก BullVPN ไว้ด้วยนะครับผม ปกปิด IP ไม่ระบุตัวตน ท่องโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างอิสระ🐮🩵