pattern

วิธีป้องกันภัยร้าย จากโลกอินเทอร์เน็ต

     28,467

pattern

วิธีป้องกันภัยจากอินเทอร์เน็ต

อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่เราใช้งานอยู่เป็นประจำ

ทั้งในด้านธุรกิจ ธุรกรรมทางการเงิน เศรษฐกิจ การติดต่อสื่อสาร อัปเดตข่าว แลกเปลี่ยนข้อมูล เล่นเกมออนไลน์ เเละอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่เราขาดไม่ได้ 

แต่เราอาจจะลืมไปว่า สิ่งที่เราทำอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตหรือข้อมูลที่เราเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียของเราทั้ง Facebook, Instagram,Line หรือ TikTok นั้นอาจจะมีแฮกเกอร์หรือผู้ที่นำข้อมูลของเราไปใช้เพื่อโจรกรรมข้อมูลได้อย่างง่ายดาย 

ตัวอย่างรูปแบบการฉ้อโกงในอินเทอร์เน็ต 

1. การหลอกลวงเพื่อซื้อ-ขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต

การซื้อ-ขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ตค่อนข้างเป็นที่นิยม เนื่องจากเป็นการติดต่อซื้อขายสินค้าที่สะดวกรวดเร็ว ซึ่งการฉ้อโกงด้วยการซื้อ-ขายค้ามีหลายรูปแบบ เช่น ชำระเงินค่าสินค้าเรียบร้อยแล้วแต่ผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าเพราะไม่มีสินค้านั้นอยู่จริง 

2. การใช้บัตรเครดิตโดยไม่ได้รับอนุญาต  

บัตรเคดิตเป็นอีกหนึ่งวืธีที่สะดวกในการชำระเงินผ่านทางอินเทอร์เน็ต แต่วิธีนี้ก็ทำให้เราถูกฉ้อโกงได้เช่นกัน โดยมีวิธีฉ้อโกงมีหลายวิธี เช่น การแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของบัตร เมื่อมิจฉาชีพเข้าถึงบัญชีของผู้ถือบัตรเครดิต แล้วแอบอ้างเป็นเหยื่อเพื่อเปลี่ยนที่อยู่ทางไปรษณีย์และขอเปลี่ยนบัตรใบใหม่ หรือ การฉ้อโกงแบบไม่จำเป็นต้องแสดงบัตร เกิดขึ้นเมื่อมิจฉาชีพมีหมายเลขบัญชี วันหมดอายุ และรหัสยืนยัน ซึ่งอาจจะขโมยมาหรือได้รับข้อมูลมาจากเว็บมืด จากนั้นใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อทำการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งมักทำผ่านทางเว็บไซต์หรือโทรศัพท์

3. การหลอกลวงโดยใช้การตลาดหรือการใช้แบบตรง  

การฉ้อโกงในลักษณะนี้จะเป็นการชักชวนให้เราไปเป็นสมาชิกในเครือข่ายหรือกลุ่มขายสินค้า โดยหลอกลวงว่าเราจะได้ประโยชน์หากขายสินค้าได้ และให้เราชวนผู้อื่นมามาเข้ากลุ่มเป็นทอดๆ ซึ่งวิธีนี้เราอาจจะต้องชำระเงินค่าสมัครเพื่อเข้าเครือข่ายการขายสินค้า แต่เราจะได้รับค่าตอบแทนแต่อย่างใด ทำให้เราเสียเงินค่าสมครไปอย่างเปล่าประโยชน์ 

4. การหลอกลวงให้ประกอบธุรกิจที่บ้าน 

ลักษณะการฉ้อโกงนี้คือ มิจฉาชีพที่อ้างว่าเป็นบริษัทจะเชิญชวนให้เราสมัครสมาชิกเพื่อทำธุรกิจ โดยแจ้งว่ามีแค่คอมพิวเตอร์เครื่องเดียว ก็สามารถทำงานที่บ้านได้และหลอกให้เราชำระค่าสมัครหรือลงทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ทำให้เราเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายไปโดยที่เราไม่ได้งานจริงๆ

5. การหลอกลวงโฆษณาหรือขายยารักษาโรค

การหลอกลวงโดยการขายยาทางอินเตอร์เน็ตโดยอ้างว่าสรรพคุณของยาสามารถรักษาโรคที่ร้ายแรงได้ เช่น โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรืออ้างว่ายาดังกล่าวสามารถรักษาโรคร้ายได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งผู้บริโภคที่ซื้อยาดังกล่าวมาได้อาจจะได้รับอันตรายจากยาและได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้อง 

ป้องกันภัยจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต

วิธีป้องกันไม่ให้โดนโจรกรรมข้อมูล

1. พยายามไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในโลกอินเทอร์เน็ต

  • ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
  • เลขบัตรประชาชน
  • วันเกิด
  • ประวัติทางการแพทย์
  • ใบแจ้งเกิดของเด็ก
  • ข้อมูลทางการเงิน

2. ระวังในการทำธุรกรรมการเงิน ควรสังเกต link หรือฟอร์มของหน้าเว็บไซต์นั้นด้วยว่าเป็นของจริง เพราะบางครั้งอาจจะมี link หรือฟอร์มเว็บไซต์ปลอมขึ้นมาดักไว้ อาจทำให้เราเข้าใจผิดก็เป็นได้

3. ควรหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากอินเทอร์เน็ต หรือเข้า link เว็บไซต์แปลก ๆ ที่เราไม่รู้จัก หรือคุ้นเคย ซึ่งอาจจะส่งมาทาง E-mail, Facebook, Line เป็นต้น

4. อัปเดตโปรแกรมตรวจสอบไวรัส และอัปเดตไฟร์วอลล์ (Firewall) สม่ำเสมอ

5. ควรตั้งรหัสผ่านที่เข้าใจได้ยาก โดยให้มีตัวอักษรพิมพ์เล็ก-พิมพ์ใหญ่ ตัวเลข อักษรอักขระผสมกันไป และควรเปลี่ยน password บ่อย ๆ เป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง

6. หลีกเลี่ยงการใช้ WIFI สาธารณะ เช่น ร้านกาแฟ ร้านอาหาร โรงแรม ผู้อื่นอาจจะเข้าถึงข้อมูลที่เราแชร์บนโลกออนไลน์หรือแอปพลิเคชั่นในมือถือของเราได้ แต่เมื่อจำเป็นต้องใช้ WIFI สาธารณะ แนะนำให้ใช้บริการ VPN (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) หรือบริการ BullVPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารของเรา เพราะข้อมูลจะถูกเข้ารหัสไว้ ฉะนั้นปลอดภัยแน่นอน

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

ปกปิดตัวตนในโลกออนไลน์ แนะนำบริการ BullVPN VPN ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ อีกทั้งยังทะลุบล็อกเว็บไซต์ ปรับอินเทอร์เน็ตให้เสถียร ปลดบล็อกเน็ตหอพัก มหาวิทยาลัย ที่ทำงาน สมัครทดสอบฟรีได้ที่นี่เลย www.bullvpn.com